เครื่องวัดการเผาไหม้

ทำไมรถเมล์ควันดำ

ระบบขนส่งสาธารณะในประเทศไทยนั้นถ้าเทียบกับระบบขนส่งสาธารณะในต่างประเทศยังถือว่าด้อยกว่าต่างประเทศมากนัก อาจจะเป็นเพราะประเทศไทยมีปัญหาในเรื่องของความเหลื่อมล้ำที่สูงหากจะเข้าถึงระบบสาธารณะที่ดีอย่างเช่นรถไฟฟ้าแล้วอาจจะต้องแลกด้วยค่าโดยสารที่สูงขึ้น อีกทั้งบางพื้นที่รถไฟฟ้ายังไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่มีระบบขนส่งสาธารณะประเภทหนึ่งที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่และมีค่าโดยสารที่ไม่แพงนั่นก็คือรถเมล์ ซึ่งรถเมล์ก็มีหลายประเภททั้งแบบปรับอากาศและแบบพัดลม ปัจจุบันก็มีการพัฒนาระบบรถเมล์ให้มีหน้าจอบอกป้ายรถเมล์ รวมไปถึงการปรับประเภทรถจากแบบพัดลมมาใช้แบบรถปรับอากาศมากขึ้น แต่ค่าโดยสารก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจึงจะเห็นรถเมล์รุ่นเก่า ๆ ยังคงวิ่งอยู่ตามท้องถนน ซึ่งบางคันนั้นมีควันดำมากเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหามลภาวะทางอากาศอย่างเช่นฝุ่น PM 2.5 ระบบขนส่งเขาก็ได้แก้ปัญหาด้วยการนำเครื่องวัดการเผาไหม้มาวัดท่อไอเสียรถเมล์ว่ามีค่าการเผาไหม้เกินมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งหากคันไหนที่วัด เครื่องวัดการเผาไหม้ แล้วมีค่าเกินมาตรฐานก็จะให้คันนั้นหยุดวิ่งไปทันที นับว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหากจะแก้ที่ต้นเหตุก็ต้องหาสาเหตุที่ทำให้รถเมล์ควันดำและแก้ไขสาเหตุนั้นให้หมดไป สาเหตุที่ทำให้รถเมล์มีควันดำ สาเหตุแรกคือ กระบวนการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ กระบวนการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซลนั้นจะแตกต่างจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งรถเมล์ส่วนมากจะใช้เครื่องยนต์ดีเซลเมื่อเครื่องยนต์ดีเซลทำการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์จึงก่อตัวเป็นควันดำลอยออกมาทางท่อไอเสีย สาเหตุต่อมาคือ ที่กรองอากาศมีปัญหา ที่กรองอากาศภายในเครื่องยนต์เกิดปัญหาหรืออุดตัน ส่งผลให้มีอากาศเข้าไม่เพียงพอ จึงเกิดเป็นควันดำขึ้น สาเหตุอีกประการคือ ตัวน้ำมันเครื่อง ซึ่งน้ำมันเครื่องนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ หากปล่อยให้น้ำมันเครื่องถูกใช้งานซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นเวลานานเกินไปโดยไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเลย ก็จะทำให้การทำงานภายในเครื่องยนต์เกิดปัญหาและเกิดควันดำ จากสาเหตุที่กล่าวไปนั้น หากรถเมล์มีการบำรุงรักษาเครื่องยนต์และมีการตรวจวัดการเผาไหม้ด้วยเครื่องวัดการเผาไหม้ควบคู่กันอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยลดปัญหาการเกิดควันดำในรถเมล์ได้