เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างไรดี

ยุคฝุ่น PM2.5 คลุมเต็มเมือง เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างไรดี

ยุคฝุ่น PM2.5 คลุมเต็มเมือง เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างไรดี

ประเด็นปัญหาของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่เข้ามากร่ำกรายคุณภาพชีวิตคนเมือง เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นแล้วว่าโลกของเรากำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่เรื่องมลภาวะในอากาศ ฝุ่น PM2.5 มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของเรา และเล็กมากจนขนจมูกของเรายังไม่สามารถที่จะกรองและดักจับได้ ตรงนี้จึงเป็นวิกฤตมลภาวะทางอากาศที่น่าหนักใจมากในขณะนี้ นั่นจึงทำให้การใช้ชีวิตอยู่ในภาวะฝุ่นเต็มเมืองขนาดนี้ จำเป็นที่จะต้องหาตัวช่วยดี ๆ อย่างเครื่องฟอกอากาศหรือเครื่องกรองอากาศที่จะทำให้เราหายใจได้สะดวกและโล่งมากยิ่งขึ้นเวลาอยู่ในบ้านหรือในอาคาร แล้วจะเลือกซื้ออย่างไรที่ทำให้ปลอดภัยและเอาอยู่จากปัญหาฝุ่นพิษเต็มเมืองแบบนี้ มาดูคำแนะนำไปพร้อม ๆ  กัน

เริ่มต้นจากการพิจารณาขนาดของห้อง

Air Purifier

การจะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศให้ได้คุณภาพดีตามต้องการ สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาเลยก็คือ ขนาดพื้นที่ของห้อง ถ้าพื้นที่ของห้องใหญ่และกว้าง ก็จำเป็นที่จะต้องซื้อเครื่องที่ให้ประสิทธิภาพฟอกอากาศเต็มพื้นที่ของห้อง คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ให้เลือกซื้อเครื่องที่สามารถฟอกอากาศได้มากกว่าพื้นที่จริงของห้อง เช่น ห้องมีขนาด 20 ตารางเมตร ก็ให้เลือกรุ่นที่ให้ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศกินพื้น 25 – 30 ตารางเมตร การเลือกเผื่อไว้แบบนี้จะทำให้ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศนั้นทำอย่างอย่างเต็มที่มากขึ้น แต่แน่นอนว่าการเลือกขนาดที่ใหญ่ขึ้นประสิทธิภาพมากขึ้นก็ย่อมจะต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้นด้วย แต่เพื่อสุขภาพของคุณเอง รวมถึงทุกคนในห้องก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

รูปทรงของเครื่องฟอกอากาศก็สำคัญเหมือนกัน

รูปทรงของเครื่องฟอกอากาศหรือเครื่องกรองอากาศนั้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว รูปทรงของเครื่องจะมีอยู่ 2 แบบคือ

·        แบบทรงสี่เหลี่ยม แบบนี้จะคุ้นตาเรากันอยู่แล้ว มีทั้งสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า แตกต่างกันไปในเรื่องของดีไซน์ส่วนโค้งเว้าต่าง ๆ เท่านั้น แต่ก็ให้รูปลักษณ์ออกมาเป็นทรงสี่เหลี่ยมชัดเจน รูปแบบนี้ระบบทางเดินการไหลเข้าของอากาศจะเป็นทางเดียว หรือบางรุ่นก็อาจจะเป็น 2 ทิศทาง ช่องอากาศเข้าจะเป็นด้านหลัง หรือใต้เครื่อง ส่วนทางอากาศออกจะอยู่ด้านข้างหรือด้านบนของเครื่อง

·        แบบทรงกลม แบบนี้จะเป็นดีไซน์รุ่นใหม่ จุดเด่นก็คือ ระบบอากาศไหลเข้านั้นจะเป็นแบบ 360 องศา ส่วนอากาศไหลออกจะเป็นด้านบนหรือด้านข้างของตัวเครื่อง กล่าวง่าย ๆ  ว่ารูปทรงแบบนี้จะให้มิติความละเอียดในการฟอกอากาศได้รอบทิศทางมากกว่านั่นเอง

เรื่องแผ่นกรองอากาศก็อย่ามองข้าม

เมื่อมีชื่อเรียกว่าเครื่องกรองอากาศ ระบบแผ่นกรองอากาศจึงนับเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากที่ต้องทำมาพิจารณา เพราะหลาย ๆ รุ่นที่วางจำหน่ายกันอยู่ทั่วไปนั้น จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของจำนวนและชนิดของแผ่นกรองอากาศ บางรุ่นจะมี 2 – 3แผ่น ส่วนบางรุ่นราคาสูงขึ้นไปอีกหน่อยก็จะมีแผ่นกรองอากาศมากขึ้นโดยให้มาถึง 4- 5แผ่นเลยทีเดียว ซึ่งแผ่นกรองอากาศเหล่านี้สำคัญมาก จะกรองตั้งแต่ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ ไรฝุ่น ไปจนถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้นั้นมีส่วนสำคัญที่ทำให้คนเกิดภูมิแพ้ได้ การมีแผ่นกรองอากาศที่มากขึ้นละเอียดขึ้นยิ่งทำให้เราปลอดภัยและเสี่ยงต่อพิษภัยของฝุ่นละอองมากขึ้นด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศเพื่อมาช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองต่าง ๆ ภายในที่พักอาศัยอย่างไรก็ดีสิ่งที่คุณจะต้องทราบไว้ด้วยก็คือ เครื่องบางรุ่นนั้นก็ไม่สามารถที่จะกรองฝุ่น PM2.5 ได้ หากจะให้กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กขนาดนี้ได้คุณก็จำเป็นที่จะต้องเลือกสเปกของเครื่องที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาด 0.01 ไมครอนได้ แต่ก็แน่นอนว่าประสิทธิภาพเครื่องแบบนี้ราคาย่อมสูงขึ้น อีกทั้งฝุ่น PM2.5 ลอยอยู่ในอากาศข้างนอกเสียส่วนมากไม่ได้อยู่ในห้องหรือตัวอาคาร ฉะนั้น จะเลือกซื้ออย่างไรก็ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่ถึงจะได้ประสิทธิภาพที่คุ้มค่าจริง ๆ